อเมริกันฟุตบอล ถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่มีเครื่องแต่งกายเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ หลายคนจดจำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการใส่หมวกกันน็อกราว กับจะออกไปสนามรบ, ชุดแข่งขันเทอะทะที่เต็มไปด้วยเกราะป้องกัน หรือ กางเกงขายาวคลุมเข่า แตกต่างจากกีฬาอื่นบนสนามหญ้าทั่วไป
จะพาคุณไขข้อสงสัยว่า ทำไม NFL ถึงบังคับให้ผู้เล่นสวมใส่ กางเกงขายาว? อะไรที่ทำให้จุดยืนของพวกเขาแตกต่าง จากฟุตบอลหรือรักบี้ จนทำให้กางเกงขาสั้นเหนือ เข่าถูกแบนจากลีกมาจนถึงทุกวันนี้
เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า
หากจะสืบหาต้นต่อว่า เหตุใดผู้เล่นอเมริกันฟุตบอล ถึงสวมใส่กางเกงขายาว เราต้องย้อนกลับไปไกลถึงศตวรรษที่ 19 เนื่องจากเรื่องราวของกางเกง ขายาวในกีฬาคนชนคนมี จุดเริ่มต้นมานานกว่า 100 ปี
เหมือนที่รู้กันโดยทั่วไปว่า อเมริกันฟุตบอล เกิดขึ้นเนื่องจาก การประยุกต์รวมกันระหว่างฟุตบอลและรักบี้ โดยเฉพาะกีฬาชนิดหลัง ที่มีลักษณะการเล่นคล้าย คลึงกับอเมริกันฟุตบอล จนบางคนแยกความแตกต่างไม่ออก
อเมริกันฟุตบอล และ รักบี้ ต่างเป็นเกมที่มีหัวใจหลัก คือการครอบครองบอลของผู้เล่นไว้ในมือ เพื่อวิ่งไปทำแต้มยังบริเวณปลายสุด ของสนามหรือจะด้วยการเตะบอล ใส่ประตูที่ประกอบไปด้วยเสาขนาดใหญ่
อิทธิพลจากกีฬารักบี้จึงปรากฏ ในอเมริกันฟุตบอลค่อนข้างมาก รวมถึงเรื่องของการแต่งกายด้วยเช่นกัน โดยนักอเมริกันฟุตบอล ยุคแรกต่างเลือกใส่กางเกงขาสั้น ที่ผลิตจากผ้าสำลีน้ำหนักเบาเหมือนกับที่นักกีฬารักบี้ในช่วงเวลานั้นสวมใส่
ความเปลี่ยนแปลงที่ทำ ให้ช่วงเวลาของกางเกงขาสั้น ในอเมริกันฟุตบอลสิ้นสุดลงเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1880s เมื่อสไตล์การเล่นในรูปแบบวิ่งยาวเข้าทำ แต้มซึ่งได้อิทธิพลมาจากกีฬารักบี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นการเล่นแบบเน้นการปะทะ บริเวณกลางสนามที่กลายเป็นเอก ลักษณ์ของอเมริกันฟุตบอล
นับจากวันนั้น สิ่งที่นักอเมริกันฟุตบอลคุ้นชินมากที่สุดจึงเป็นการถูกกระแทกให้ลงไปกองกับพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีใครชอบใจที่จะต้องลงไปนอนเจ็บตัวกับพื้นอยู่ร่ำไป
ผู้เล่นบางคนจึงเริ่มหาวิธีลด อาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น เอมอส อลอนโซ สแตกก์ นักอเมริกันฟุตบอลระดับ ตำนานในช่วงศตวรรษ 19 ที่แก้ปัญหาด้วยการพันฟองน้ำไว้รอบหัวเข่าของตัวเอง
กางเกงของนักกีฬาอเมริกัน ฟุตบอลจึงเริ่มมีการปรับเปลี่ยน ในช่วงทศวรรษ 1890s โดยมีการเปลี่ยนวัตถุดิบจากผ้าสำลีเป็นผ้าใบ หรือผ้าที่ถักอย่างหนา นอกจากนี้ ยังเริ่มมีการเพิ่มความยาวของขากางเกงให้ยาวขึ้น จนมาคลุมบริเวณหัวเข่า
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 ผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลเริ่มมีการใส่สนับเข่าลงเล่น หรืออาจใช้ใบไผ่หรือใบหญ้ามาสานกันจนเป็น เครื่องป้องกันบริเวณหัวเข่าของตน
แน่นอนว่าใบไม้ย่อมไม่ สามารถป้องกันอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากกีฬาสุดโหดนี้ได้ อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นบริเวณหัวเข่า ของนักอเมริกันฟุตบอลขณะนั้นถือเป็นเรื่องปกติทั่วไป การพัฒนาเพื่อปรับปรุง กางเกงให้ป้องกันอาการบาดเจ็บได้ดีขึ้นจึงถือเป็นความพยายามที่เกิดขึ้นมาตลอดช่วงต้นศตวรรษที่ 20
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระเป๋า ภายในกางเกงสำหรับใส่ สนับเข่าแทนที่จะเย็บสนับเข่าติดกับกางเกงเพื่อช่วยลดน้ำหนักของเครื่อง แต่งกายและเพิ่มความเร็ว ในการเคลื่อนที่, เริ่มมีการนำยางพารามาเป็นวัตถุดิบในการสร้างเครื่อง ป้องกันบริเวณหัวเข่าแทนที่ จะใช้ใบไม้สานเหมือนแต่ก่อน
ทั้งหมดนี้ถือเป็นพัฒนาการ ของกางเกงขายาวในกีฬา อเมริกันฟุตบอล ซึ่งเชื่อกันว่าจะตอบโจทย์การเล่นกีฬาชนิดนี้เพิ่มขึ้น
ถึงอย่างนั้น กางเกงขายาวก็ยังไม่ถูก พัฒนาจนลงตัว แม้จะมีการปรับปรุง และพัฒนามาแล้วมากมายหลายรูปแบบ นักอเมริกันฟุตบอลบาง คนจึงยังเลือกใส่กาง เกงขาสั้นเหมือนเดิมแล้วเพิ่มเติมด้วยการใส่สนับเข่าแยกต่างหาก
ต้องบังคับถึงยอมใส่กางเกงขายาว
เหตุผลที่นักอเมริกันฟุตบอล ยังสามารถเลือก ใส่กางเกงขาสั้น หรือขายาวได้ตามใจชอบ นั่นเป็นเพราะในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ยังไม่มีกฎบังคับ ให้ผู้เล่นต้องใส่กางเกง รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว นักกีฬาเหล่านี้ชอบ ที่จะใส่กางเกงขาสั้นกันมากกว่า
ในช่วงทศวรรษ 1920s เทรนด์การใส่กางเกงขา สั้นพร้อมกับสนับเข่า กำลังมาแรงในกีฬาอเมริกันฟุตบอล ผู้เล่นหลายคนถาม ตัวเองว่าทำไมต้องใส่ กางเกงขายาวให้ยุ่งยาก ในเมื่อการใส่กางเกงขาสั้นก็สามารถปกป้อง หัวเข่าของพวกเขาได้แล้ว โดยการใส่กางเกงขาสั้นพร้อม กับสนับเข่าเป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน ในกีฬาฮอกกี้และรักบี้แคนาดา
ตลอดช่วงปี 1920s จึงมีหลายทีมที่ใส่กางเกง ขาสั้นลงแข่งขัน โดยหนึ่งใน ทีมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเวลานั้นอย่าง มหาวิทยาลัยไรซ์ ซึ่งมีกุนซือคือ จอห์น ไฮส์แมนตำนานเฮดโค้ชของวงการอเมริกันฟุตบอลคอลเลจ ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่อนุญาต ให้นักกีฬาของตนเลือกใส่กางเกงขาสั้นลงสนาม
เหตุผลสำคัญที่ทำให้กางเกง ขาสั้นเป็นที่นิยมมากในช่วงเวลานั้น เพราะกางเกงขายาวมีน้ำหนักที่เยอะกว่ามาก (ราว 0.7 กิโลกรัม) ส่งผลให้การเคลื่อนที่ของ ผู้เล่นไม่ได้เป็นไปโดยสะดวก เมื่อบวกกับความจริงที่ส่วนหนึ่งของ กางเกงจะต้องผูกติดกับหัวเข่าตลอดเวลา ยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวโดยใส่กางเกงขายาว เป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่
ในทางกลับกัน การใส่กางเกง ขาสั้นเพิ่มความเร็วในการ เคลื่อนที่ของนักอเมริกันฟุตบอลได้มากกว่า ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ในการเล่นได้มหาศาล นั่นจึงทำให้ มหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาสั่งให้ผู้เล่นทุกคนที่อยู่ในทีมเมื่อปี 1932 ใส่กางเกงขาสั้นลงเล่น แม้กระทั่งผู้เล่นตำแหน่งไลน์แมนซึ่งมีหน้าที่หลักเป็นการปะทะก็ต้องใส่ กางเกงขาสั้นเช่นเดียวกัน
จุดเปลี่ยนที่ทำให้กางเกงขาสั้น ลดความนิยมลงไปในอเมริกัน ฟุตบอลเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1930s เมื่อมีการศึกษาเพื่อ หาสาเหตุของอาการบาดเจ็บ ที่เกิดขึ้นในเหล่าผู้เล่นอย่างจริงจัง ซึ่งงานวิจัยที่ออกมาแทบ ทั้งหมดสนับสนุนว่า นักอเมริกันฟุตบอลควรให้ความสำคัญกับการป้องกัน หัวเข่าไม่ต่างจากศีรษะหรือส่วนลำตัว
NFL จึงออกกฎในปี 1939 บังคับให้ผู้เล่นทุกคน ต้องสวมใส่สนับเข่าที่มีความหนาไม่ต่ำกว่าหนึ่งนิ้วครึ่ง หรือ 3.8 เซนติเมตร ก่อนที่กฎจะเข้มข้นไปอีกเมื่อ เอลเมอร์ เลย์เดน เข้ามารับตำแหน่งคอมมิชชันเนอร์ หรือกรรมาธิ การของลีกในปี 1941 เขาได้แสดงความเห็นว่า “ขาของพวกนักกีฬาเหล่านี้มันดูไม่ได้เลย” และเสนอความเห็น ว่านักอเมริกันฟุตบอลทุกคนใน ควรสวมใส่กางเกงขายาวกันเสียที
ในที่สุด จึงมีการบรรจุกฎลงไป ในหนังสือกติกาของ พวกเขาเมื่อปี 1945 บังคับให้นักกีฬาทุกคนต้องสวมใส่กางเกง ที่ปกคลุมลงมาถึงใต้หัวเข่า นอกจากนี้ยังต้องสวม ใส่ถุงเท้าหรือถุงน่องที่ครอบคลุมส่วนขา ทั้งหมดนับตั้งแต่ส่วนปลาย ของกางเกงไปจนถึงรองเท้า เมื่อรวมกันแล้วส่วนขาทั้งหมดของ นักอเมริกันฟุตบอล จะถูกปกป้องโดย อุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง
ยังบังคับอีกว่าห้ามผู้เล่น ดัดแปลงหรือตัดส่วนใดส่วน หนึ่งของกางเกงโดยเด็ดขาด นี่คือประโยคทองที่ถือเป็นการปิด ฉากช่วงเวลาของกางเกงขาสั้นใน NFL อย่างเต็มตัว และส่งผลให้นักอเมริกันฟุตบอลทุกคนในลีกแห่ง นี้สวมใส่กางเกงขายาวที่ปกปิดหัวเขา นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ทุกวันนี้กฎเรื่องการบัง คับให้ผู้เล่นใส่ กางเกงขายาวยังคง ถูกบันทึกอย่างชัดเจน ในหนังสือกติกาของ NFL และบังคับใช้อย่างเคร่งครัด โดยมีนักกีฬาหลายคนเคยถูกปรับเพราะสวมถุงเท้าต่ำกว่ากำหนด ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่ จูจู สมิธ-ชูสเตอร์ ถูกปรับ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากไม่ปกปิดช่วงขาส่วนล่างตามกฎ
เรื่องนี้ทำให้หลายคนล้อเลีย ว่าสั่งปรับนักกีฬาหลายคนเพียง เพราะพวกเขาโชว์ผิวหนังบริเวณขาให้คนอื่นได้เห็น เมื่อบวกกับความจริงที่การ แต่งกายในลักษณะนี้ลดความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวลงไปมาก
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะ มีกระแสผลักดันให้ กางเกงขาสั้น กลับมาสู่อเมริกันฟุตบอล อยู่ตลอด และจนถึงทุกวันนี้นักอเมริกัน ฟุตบอลในระดับ มหาวิทยาลัยก็ยังคง ใส่ถุงเท้าสั้นเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ เนื่องจากในลีก สมัครเล่นไม่มีกฎที่กำหนดให้ ใส่กางเกงขายาวเหมือนใน NFL
อย่างไรก็ดี จากเรื่องราวในอดีต งานวิจัย และความจริง ที่เห็นอย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า แสดงให้เห็นแล้วว่าความปลอดภัย สำคัญที่สุดสำหรับนักอเมริ กันฟุตบอลเหล่านี้ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากการสวมใส่ กางเกงขายาวอย่างแน่นหนา
นี่จึงเป็นสาเหตุให้นักอเมริกัน ฟุตบอลโลดแล่นอยู่บนพื้น หญ้าด้วยเครื่องแต่งกาย ส่วนล่างที่แตกต่างไปจากกีฬาอื่น นั่นก็เป็นเพราะ เหตุผลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งจะปกป้องพวกเขาจากการเข้าปะทะและการถูก กระแทกอย่างดุดัน อันเป็นเอกลักษณ์และ จิตวิญญาณของพวกเขาเอง